ทุกท่านเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า หวามเป็นลมขมเป็นยา มั้ยครับ คำโบราณคำนี้ ทุกท่านคงคุ้นหูกันดีครับ พืชผักรสขม ที่หาได้ตามบ้านเราและท้องตลาดทั่วไป ที่บางคนต้องร้องยี้และอ้วกกันเป็นแถวๆเมื่อทานผักรสขม แต่รู้มั้ยครับว่า ผักรสขมนั้นมีสรรคุณทางยาและมีประโยชน์ต่อสุขภาพเรามากมายครับ เคยเห็นการ์ตูน เรื่อง ป๊อปอาย มั้ยครับ กินผักขมแล้วซู่ซ่า กล้ามแขนปูดขึ้นเป็นมัดๆ มีกำลังมหาศาล แต่นั่นเป็นการ์ตูนครับ ผักรสขมคงไม่ถึงกับกล้ามขึ้นเป็นมัดๆขนาดนั้นหรอกครับ แต่มีสรรพคุณทางยาที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายและสามารถช่วยรักษาโรคบางชนิดได้รวมทั้งยังใช้ประกอบเป็นอาหารได้ด้วย อยากรู้แล้วใช่มั้ยครับว่า ผักรสขมที่มีประโยชน์นั้น มีอะไรบ้างเรามาดูกันเลยครับ
1. สะเดา
ผักรสขมชนิดนี้หาได้ง่ายตามบ้านเราทุกส่วนของสะเดามีคุณสมบัติเป็นยาได้ทั้งสิ้น
คนโบราณเชื่อว่า
"กินสะเดาก่อนเป็นไข้ช่วยป้องกันไข้ได้
กินสะเดาเมื่อเป็นไข้แล้วรักษาให้หายไข้ได้"
ก็ไม่ผิดเพราะผักรสขมอย่างสะเดามีประโยชน์ช่วยบำรุงเลือด ช่วยเจริญอาหาร
เป็นยาระบาย ช่วยให้นอนหลับดี และช่วยรักษาอาการไข้ เรานิยมนำยอดและดอกมาทำอาหาร
ซึ่งให้คุณค่าทางโภชนาการเช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เส้นใย
เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี และไนอาซิน
สำหรับเมนูยอดฮิตของสะเดาก็นี่เลยสะเดาน้ำปลาหวานทานกับปลาดุกย่างอร่อยจนลืมขมไปเลยครับ
2. ขี้เหล็ก
สะเดา
เป็นไม้ยืนต้น สูง 10- 15 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ ใบย่อยรูป ขอบขนาน กว้างประมาณ
1.5 ซม.ยาวประมาณ 4 ซม. ใบอ่อนมีสีน้ำตาลแกมเขียว
ดอกช่อออกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีเหลือง ผลเป็นฝัก แบบยาวและหนา
ดอกตูมและใบอ่อนของขี้เหล็กมีรสขม
ขี้เหล็กถือเป็นยานอนหลับชั้นยอด ช่วยระบายท้องได้ดี บำรุงร่างกาย แก้ระดูขาว
แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ แก้ไข้ ช่วยลดความดันโลหิต และรักษากามโรค มีสารอาหาร เช่น
วิตามินเอและซีค่อนข้างสูง มีเส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี 1 และไนอาซิน
ยอดขี้เหล็กมีสารช่วยคลายเครียดทำให้นอนหลับสบาย
เมนูขี้เหล็กที่นิยมมีทั้งดอกตูมและใบอ่อน เช่น แกงคั่วใส่กะทิ
หรือกินเป็นผักจิ้มน้ำพริก แกงขี้เหล็กจะอร่อยก็ต้องมีกะทิใส่ปลาย่างหรือหมูสับ
กะทิในแกงขี้เหล็กไม่ได้ใส่เพื่อเพิ่มความอร่อยอย่างเดียว
แต่มีส่วนในการดึงสารเบต้าแคโรทีนในขี้เหล็กออกมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นอีกด้วย
3. มะระ
ทั้งมะระจีนและมะระขี้นกในตำรายาไทยบอกว่าเป็นยาเจริญอาหาร ยาระบาย หัวเข่าบวม บำรุงน้ำดี แก้โรคของม้าม โรคตับ ขับพยาธิ มีสรรพคุณในการรักษาโรคเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ บำรุงระดู แพทย์จีนเชื่อว่ามะระมีพลังของความเย็น ช่วยขับพิษ ช่วยฟอกเลือด
บำรุงตับ มีผลดีต่อสายตาและผิวหนัง แม่บ้านชาวจีน มักจะปรุงอาหารด้วยมะระ ให้คนในครอบครัวรับประทานยามเป็นสิวที่ใบหน้าและร่างกาย เมนูมะระ เช่น
ผลอ่อนและยอดอ่อนนำมาลวกต้มเป็นผักจิ้มน้ำพริก ถ้าราดด้วยน้ำกะทิจะมีรสชาติดีขึ้น ผัดใส่ไข่ แกงกะทิ แกงจืดยัดไส้หมูสับ ส่วนมะระขี้นกมีรสขมกว่ามะระจีน
ผลอ่อนนำไปต้มเผากินกับน้ำพริกหรือราดกะทิสดเพิ่มรสชาติ
แกงจืดมะระขี้นกยัดไส้หมูสับ พะแนงมะระขี้นกยัดไส้ แกงเผ็ด ผัดกับไข่ ยอดมะระลวกจิ้มน้ำพริกหรือทานกับปลาป่นของชาวอีสาน และนิยมนำใบใส่ลงไปในแกงเห็ดแบบพื้นบ้านจะทำให้แกงมีรสขมนิดๆ กลมกล่อมมาก บ้างนิยมนำใบมาต้มหรือลวกจิ้มน้ำพริก
ทางภาคเหนือนิยมนำยอดมะระสดมากินกับลาบหรือนำไปทำแกงคั่ว แกงเลียง และแกงป่า
ได้รสน้ำแกงที่ขมเฉพาะตัว
4. ยอ
ผักพื้นบ้านที่คนไทยรู้จักดีและบริโภคเป็นอาหารมานานทั้งใบและผลยอมีวิตามินซีสูง ช่วยต้านมะเร็ง กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพ ลดอาการภูมิแพ้ ช่วยให้การทำงานของเซลล์ในร่างกายเป็นปกติ เป็นยาระบาย ช่วยขับลม แก้คลื่นเหียนอาเจียน ช่วยย่อยอาหาร เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงธาตุ ผู้หญิงควรกินลูกยอที่แก่จัดเพื่อบำรุงเลือดลม ปวดท้องประจำเดือน รักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ คนโบราณเชื่อว่าถ้าเลือดลมดี ผิวพรรณก็จะเปล่งปลั่ง
สดใส ไม่เป็นสิวฝ้า
เราจึงควรหาโอกาสทานอาหารที่มียอเป็นส่วนประกอบเพราะนอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารสูงแล้วยังเป็นปัจจัยที่จะทำให้ร่างกายเป็นปกติโดยไม่เสียสมดุล เมนูเด็ดใบยอ เช่น แกงใบยอปลาดุก ห่อมกใบยอ แกงอ่อมใบยอ ข้าวยำใบยอ เมี่ยงใบยอ หรือยอดใบยอจิ้มน้ำพริกก็อร่อยไปอีกแบบ ส่วนผลก็ลองนำลูกยอสุกงอมจิ้มเกลือกับน้ำตาลกินหรือบางคนอาจยังไม่เคยทานส้มตำลูกยอ และปัจจุบันก็มีการผลิตน้ำลูกยอขายลองไปหามาชิมดู
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น